คลองมหาสวัสดิ์มีอีกชื่อนึงว่าคลองชัยพฤกษ์ เป็นคลองที่ไหลเป็นที่กั้นระหว่างอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี กับเขตตลิ่งชันและทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เริ่มต้นจากคลองลัดบางกรวยหรือคลองบางกอกน้อย ไหลผ่านพุทธมลฑลออกไปจบที่แม่น้ำท่าจีนที่ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม มีความยางถึง 28 กิโลเมตร โดยในเวลลานี้คลองมหาสวัสดิ์ เป็นเส้นทางการเดินทางโดยเรือที่สำคัญของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง โดยน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ยังสามารถเอาไปทำประโยชน์ได้ในด้านเกษตรกรรม สามารถเรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ให้ใช้งานแล้วยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย โดยรอบๆคลองมหาสวัสดิ์ก็มีชุมชนคลองมหาสวัสดิ์อยู่อีกด้วย
ประวัติศาสตร์ชุมชนมหาสวัสดิ์ ณ ศาลายา
คลองมหาสวัสดิ์ได้เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเดินธุดงค์จนมาพบพระปฐมเจดีย์ซึ่งมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ด้วย ท่านจึงเดินทางกลับไปเชิญพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมาทำนุบำรุงแต่เกิดสิ้นรัชกาลก่อนหลังจากที่ท่านได้ขึ้นเป็นรัชกาลที่4ก็ได้ทำนุบำรุงพระปฐมเจดีย์โดยทำการขุดคลองในวันที่13 กันยายน พ.ศ. 2402 โดยความหมายของคลองมหาสวัสดิ์ก็คือ เส้นทางการเดินทางไปพระปฐมเจดีย์ เพื่อย่นระยะทางการเดินทางไปสู่พระปฐมเจดีย์ใช้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากขุดคลองเป็นที่เรียบร้อยในวันที่1 พฤษภาคม พ.ศ. 2403สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้โปรดเกล้าฯให้ให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค)และพระภาษีสมบัติบริบูรณ์ เป็นแม่กองจ้างของชาวจีนขุดคลองโดยผลที่ออกมาคือ คลองนี้เป็นคลองที่กว้างที่สุดในสมัยนั้น
ด้วยความกว้าง 7 วา(14เมตร) โดยหลังจากนั้น ชุมชนชาวจีนที่ทำการขุดคลองบางส่วนขุดคลอง ชาวบ้านจากริมแม่น้ำนครชัยศรี บางเตย และดอนหวาย ก็ได้เข้ามาอยู่อาศัยกัน เจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดีก็ได้ทำการสร้างศาลาขึ้นมาตามคลองทุก 100 เส้นเพื่อให้ประชาชนพักทั้งหมดจะมี7ศาลา โดยศาลาเหล่านี้จะถูกตั้งชื่อตามแต่ละสิ่งที่ศาลาต่างๆนั้นได้คอยทำ เช่น ศาลาที่ทำการเขียนตำราเกี่ยวกับยาก็ได้ชื่อว่าศาลายา 7
ก็คือศาลาดินที่เรารู้จักกัน ส่วน5นั้นก็คือ”ศาลาทำศพ”และในปัจจุบันก็ได้เปลี่ยนเป็น”ศาลาธรรมสพน์”ในที่สุด
หลังจากชาวบ้านจากที่ต่างๆได้ย้ายเข้ามาแล้ว ในปี พ.ศ.2424มีวัดได้ถือกำเนิดขึ้นจากการร่วมศรัทธารกันของชาวบ้าน ซึ่งก่อนที่จะสร้างเป็นวัดขึ้นมาก็เป็นสำนักสงฆ์สุวรรณาราม ดังนั้นชุมชนก็ได้รับชื่อของวัดมาจนมีชื่อว่าชุมชนวัดสุวรรณารามในสมัยพระครูวิชัยวุฒิคุณ (หลวงปู่ดี สุวัณโณ) เป็นเจ้าอาวาสที่วัดสุวรรณารามท่านได้ทำการรวบรวมกำลังศรัทธาในชุมชนจากผู้คนในชุมชนเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์วัด สร้างศาลาการเปรียญ สร้างสาธารณกุศล และยังสนับสนุนให้สร้างโรงเรียนแก่กุลบุตร-กุลธิดาได้เข้าศึกษาหาความรู้ จนวัดสุวรรณกลายหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างยิ่ง
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหรือรัชกาลที่9 ได้เห็นว่าชุมชนแถบชุมชนศาลาดินมีความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยดีในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2516ในสมัยรัชกาลที่9ได้รับเรื่องที่เกษตรกรไม่มีความมั่งคงในอาชีพท่านจึงร่างกฏหมายปฏิรูปที่ดินขึ้นมท่านได้มอบพื้นที่ของท่านทั้งหมด 1009 ไร่แบ่งเป็นครอบครัวละ 20 ไร่และได้รับฉโนดพื้นที่ในวันที่ 29 พ.ศ.2520
ตามรอยหลักคำสอนเศรษฐกิจพอเพียง
คนในชุมชนนี้อาศัยอยู่ตามหลักคำสอนเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง โดยสามารถนำเสนอสถานที่และทรัพยากรให้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ และบริการ ทั้งนี้ก็ยังรักษาสภาพแวดล้อมและธรรมชาติเอาไว้ด้วย สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดในชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ก็เกิดจากการร่วมมือร่วมใจกันของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งกลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตรคลองมหาสวัสดิ์หรือการบำบัดน้ำที่ใช้แล้วด้วยจุลินทรีย์สูตรสมุนไพรก่อนจะนำกลับไปใช้ที่นาข้าว เรียกได้ว่าเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและทำประโยชน์ให้มากมาย
สิ่งน่าสนใจ
นั่งรถอีแต๊กชมสวน
กิจกรรมนั่งรถอีแต๊กชมนาบัว การนั่งรถอีแต๊กชมสวนผลไม้เป็นไฮไลท์ ด้วยเทคนิคการขับรถอีแต๊กของคุณสมบูรณ์ที่เร้าใจและน่าตื่นเต้นทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบเป็นอย่างมาก ด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นชวนให้รู้สึกผ่อนคลายของสวนผลไม้ก็สามารถสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจได้เป็นอย่างดี ค่าใช้จ่ายการนั่งรถอีแต๊กชมสวน เที่ยวละ 100 บาทนั่งได้เที่ยวละประมาณ 10 คน [...]
สาธิตทำข้าวห่อใบบัว
กิจกรรมทำข้าวห่อใบบัว กิจกรรมการทำอาหารพื้นบ้านของชุมชนคลองมหาสวัสดิ์เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นที่สวนผลไม้ของลุงบุญเลิศ ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถเข้าร่วมได้ โดยทางสวนผลไม้จะเป็นผู้สอนขั้นตอนต่างๆให้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบที่ใช้ วิธีการปรุง ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจกัน หลังจากปรุงเสร็จทุกท่านจะได้รับประทานอาหารร่วมกัน [...]
สาธิตทำข้าวตัง
เรื่องราวของข้าวตังบ้านศาลาดิน เริ่มจากปีพ.ศ.2542ได้ริเริ่มที่จะผลิตข้าวตังออกมา ทดลองปรุงรสชาติให้มีรสชาติที่อร่อยโดยการโรยด้วยธัญพืชหรือโรยด้วยหมูหยองจนกลายมาเป็นข้าวตังที่มีชื่อเสียงอย่างที่มีในทุกวันนี้ โดยผลงานทั้งหมดเป็นผลผลิตของเป็นสมาชิกกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรชุมชนมหาสวัสดิ์ ที่เกิดจากการรวมตัวของแม่บ้านเกษตรกรเป็นกลุ่มขึ้นมาในปี 2520 มีการสาธิตวิธีการทำข้าวตังให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน ซึ่งข้าวตังถือเป็นของขึ้นชื่อของบ้านศาลาดินโดยมีหลากหลายรสชาติที่มีรสชาติอร่อย ไม่มีค่าใช้จ่ายในการชม หลังจากทำเสร็จก็จะให้ปรุงกับเครื่องเคียงที่เตรียมเอาไว้ ที่บ้านศาลาดินมีการบริการน้ำให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาฟรี [...]